สืบเนื่องมาจาก
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2565
เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
พนมดงรัก ได้จับผู้ต้องหา ได้ 3 คน
เข้าไปโคนไม้ประดู่ ในแปลงสำรวจถือครอง สิทธิ์ทำกินของราษฎร ที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ พร้อมรถไถ 1 คัน ผู้ต้องหายอมรับว่า ได้รับการว่าจ้าง จากนายบอย เป็นชาว สปป ลาว ให้มาตัด และมีการซื้อขายกับเจ้าของที่ดินแล้ว จำนวน 3 ต้น ในสองเจ้าของ
ต่อมา ได้มีการสอบสวนขยายผล
จึงทราบว่า ในการตัดไม้ประดู่ ครั้งนี้ เอาไปสวมตอ กับไม้ประดู่ ที่กลุ่มนายบอย ได้ซื้อไม้ประดู่ที่มีหลักฐานในที่ดิน ที่ถูกต้อง ซึงหลักฐานที่ดินแปลงดังกล่าว เป็นของนางสมจิตร ถือหอม ท้องที่ หมู่ 4 ต ละลาย
อ กันทรลักษ์ จ ศรีษะเกส โดนมีนายวิเชียร นุพันธ์ ผู้ใหญ่บ้าน รับรองเอกสารที่ดิน ดังกล่าว
กลุ่มนายบอย และ นายเอก จึงได้ใช้เอกสารฉบับดังกล่าว แสดงกับเจ้าหน้าที่ ว่าไม้ประดู่ที่ตนครอบครองนั้น มาจากที่ดินที่ถูกต้อง
และรอดพ้นการตรวจสอบมาโดยตลอด
จนมาถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2565
นายเอก และนางนก นำเอกสารที่ดิน พร้อมทั้งภาพถ่ายต้นไม้/ตอไม้ประดู่ ที่ตนอ้างว่าได้ตัดมาจากแปลงของนางสมจิตร แต่ภาพเป็นต้นและตอ ที่โคนมาจาก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ซึ่งตรงกัน และ หลักฐานการสืบสวนสอบสวนติดตามไม้ประดู่จำนวน 8 ต้น นั้นเป็นไปตามข้อเท็จจริงว่า
นายเอก (นายพิศิษฐ์ เอกติชัยวีรกุล) นางนก (นางอรวรรณ บุญธรรม) รวมกับนายบอย กับพวก 10 กว่าคน เข้าไปทำไม้ประดู่ ในรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก
ที่ในการขยายผล
- ขยายผลจากคดีเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2565
จากการสนธิกำลังโดยเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 สาขาอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอขุนหาญ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรขุนหาญ เจ้าหน้าที่ทหารชุด ลว.ไกล กองกำลังสุรนารี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก3 บก.ปทส. เข้าจับกุมการลักลอบทำไม้ในพื้นที่ สปก. ท้องที่ตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2565 จับกุมผู้กระทำผิดได้ทั้งหมด 10 ราย ได้ของกลางเป็นไม้ประดู่ จำนวน 26 ท่อน ปริมาตร 19.38 ลบ.ม. คิดเป็นมูลค่ากว่า 678,300 บาท และรถยนต์ของกลางจำนวน 5 คัน รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิด รวม 28 รายการ โดยตรวจสอบพบว่าเป็นขบวนการลักลอบทำไม้และนำไม้ในที่ สปก. มาออกเอกสารเท็จให้เป็นไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์ตามมาตรา 7 พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 โดยผู้กระทำผิดบางรายเกี่ยวข้องเป็นเจ้าของโรงไม้ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์
จ.ศรีสะเกษ และผู้กระทำผิดรายหนึ่งเกี่ยวข้องกับคดีลักลอบทำไม้ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก
ที่ได้ดำเนินคดีไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา และพบว่าเหตุการณ์ทั้ง 2 เหตุการณ์นี้มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
- บุกตรวจค้นโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และพื้นที่ใกล้เคียง
เจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ ชุดพยัคฆ์ไพร เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) เจ้าหน้าที่ส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 สาขาอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ ทหาร ฉก.ที่ 3 ค่ายสุรนารี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.กันทรลักษ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ สนธิกำลังบุกค้นโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนในท้องที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีได้รับแจ้งว่ามีการเปิดโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้เข้าตรวจสอบโรงเลื่อยณัฐภัทร ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นทีพี โพรเซส 93 หมู่ 11 บ้านเหรียญทอง ตำบลจานใหญ่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ พบกับนายพิศิษฐ์ เอกติชัยวีรกุล แสดงตนเป็นหุ้นส่วนในการประกอบกิจการโรงงานแปรรูปไม้ และนางอรวรรณ บุญธรรม มารดานายณัฐภัทร ธุวดาราตระกูล ผู้ขออนุญาตจัดตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร จึงได้แสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอตรวจสอบการแปรรูปไม้และกิจการของผู้ได้รับอนุญาต โดยผู้ประกอบการได้แสดงใบอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ฯ ซึ่งสิ้นอายุการอนุญาตในปี พ.ศ.2563 และที่ตั้งอยู่คนละท้องที่กับจุดตรวจสอบ ขณะตรวจสอบพบคนงานอยู่ในระหว่างทำการแปรรูปไม้ประดู่ ร่วมกันพิจารณาแล้วเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 48 ประกอบมาตรา 73 และ ป.อาญา มาตรา 137 โดยหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.6 (เขาพระวิหาร) ได้นำเรื่องราวแจ้งความกล่าวโทษและส่งตัวผู้ต้องหา ต่อ พนง.สส.สภ.กันทรลักษ์ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ได้ตรวจสอบโรงงาน
แปรรูปไม้ในพื้นที่ข้างเคียงในท้องที่ อ.ขุนหาญ จ. ศรีสะเกษ คือ โรงงานฟู่ฮัว พาราวู๊ด จำกัด และโรงงานแปรรูปไม้ไม่มีชื่อ ตามที่ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มทุนชาวจีนมาซื้อกิจการแปรรูปไม้และประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ผลการตรวจสอบพบว่าไม่มีใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้ จึงนำเรื่องราวแจ้งความกล่าวโทษและส่งตัวผู้ต้องหา ต่อ พนง.สส.สภ.กันทรลักษ์ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
- พบเอกสารชี้มีการทำไม้สวมตอ
ในขณะตรวจสอบโรงเลื่อยณัฐภัทร ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นทีพี โพรเซส พบไม้ประดู่ป่า ที่ถูกตัดทอนวางอยู่บริเวณรอบโรงเลื่อย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้นายพิศิษฐ์ฯ แสดงหลักฐานการครอบครองไม้หวงห้ามดังกล่าว นายพิศิษฐ์ฯ ได้แสดงหลักฐานหนังสือรับรองตนเองการตัดและนำไม้เคลื่อนย้าย ไม้ที่ขึ้นในที่ดินกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจภาพถ่ายไม้ดังกล่าวในเอกสารที่อ้างว่าเป็นไม้ที่ปลูกในที่ดินกรรมสิทธิ์ ปรากฏว่า บางส่วนเป็นไม้ที่ถูกลักลอบตัดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก และได้แจ้งความดำเนินคดีเมื่อ 31 ตุลาคม 2565 โดยนายพิศิษฐ์ฯ แจ้งว่า เอกสารไม้ดังกล่าวตนได้มาจากนายบอย ไม่ทราบนามสกุล ติดต่อขอให้ดำเนินการแปรรูปไม้ประดู่ป่า โดยตนได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ไม้ขนาดดังกล่าวโรงเลื่อยของตนสายพานมีขนาดเล็กไม่สามารถเลื่อยไม้ชุดดังกล่าวตามรูปแบบที่กำหนดได้ โดยนายบอยได้นำไม้ดังกล่าวมาชั่งตรวจวัดน้ำหนักและนำไม้ออกไป - นำชี้จุดตัดไม้ในเขตป่าอนุรักษ์
คณะเจ้าหน้าที่จึงขอความร่วมมือนายพิศิษฐ์ฯ ในการร่วมตรวจสอบตอไม้ตามเอกสารรับรองไม้ฉบับดังกล่าว โดยนายพิศิษฐ์ฯ ได้เข้าไปนำชี้ตอไม้ดังกล่าวในพื้นที่ป่าอนุรักษ์บริเวณแปลงผ่อนผันการครอบครองที่ดินตามมาตรา 121 ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก พบว่าตรงกับภาพถ่ายในเอกสารที่ได้รับจากนายบอย โดยเป็นไม้ประดู่ป่า ความโตประมาณ 200-300 ซม. จำนวน 3 ตอ จากทั้งหมด 8 ตอ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงขบวนการนำไม้มีค่า (ประดู่ป่า) มาสวมสิทธิ์ไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์ ให้เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 7 พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการลักลอบทำไม้ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ต่อไป - การลักลอบทำไม้ใน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก จากการสืบสวนในทางลับ พบว่า ในช่วงวันที่เกิดเหตุ มีผู้พบเห็นรถไถล้อยางสีฟ้า พร้อมคนนั่งมากับรถ ประมาณ 5 คน วิ่งผ่านในเส้นทางภายในหมู่บ้านเพื่อเข้าไปยังจุดที่มีการลักลอบตัดไม้ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเย็น วันเดียวกัน ยังมีรถบรรทุกหกล้อติดตั้งเครนวิ่งผ่านในเส้นทางในหมู่บ้านตามเข้าไปทีหลัง คณะเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบจากพยานบุคคล เกี่ยวกับรถยนต์ของกลางที่คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2565 ที่ อ. ขุนหาญ จ. ศรีสะเกษ พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 10 ราย ปรากฏว่า รถ 6 ล้อ สีขาว เปิดข้าง มีเครนยกสีแดง จำนวน 1 คัน เป็นคันเดียวกับรถบรรทุก 6 ล้อ มีเครน ที่ขับผ่านในหมู่บ้านเข้าไปในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุลักลอบตัดไม้ประดู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก อ. กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แสดงว่ากลุ่มขบวนการทำไม้เป็นกลุ่มเดียวกัน
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร
ผอ สบอ 9 รายงาน