“รมว.วราวุธ” ร่วมมอบรางวัล Friendly Design Awards ประจำปี 2022 ในงานมหกรรมอารยสถาปัตย์ และนวัตกรรมสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล
วันนี้ (15 ธันวาคม 2565) เวลา 15.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ขึ้นกล่าวนโยบายการสนับสนุนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ตามแนวคิดการออกแบบที่เป็นมาตรฐานสากล และเป็นมิตรกับคนทั้งมวล และร่วมมอบรางวัล Friendly Design Awards ประจำปี 2022 ให้แก่ หน่วยงานและบุคคลที่ส่งเสริมสนับสนุนสร้างทำอารยสถาปัตย์ เพื่อให้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และทุกสภาพร่างกาย สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ร่วมกันได้โดยสะดวก ปลอดภัย ทันสมัย เป็นธรรม ทั่วถึง และเท่าเทียม ในงานมหกรรมอารยสถาปัตย์ และนวัตกรรมสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 6 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมทางไกลไบเทค – บางนา กรุงเทพฯ โดยมี นายกฤษนะ ละไล ประธานมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ให้การต้อนรับ ซึ่งการมอบรางวัลในครั้งนี้ มีอุทยานแห่งชาติที่ได้รับรางวัล Friendly Design Awards ร่วมด้วย จำนวน 7 แห่ง จากผลการสำรวจของมนุษย์ล้อ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จ.น่าน อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ผาเก็บตะวัน อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา อุทยานแห่งชาติแม่ปืม จ.พะเยา อุทยานแห่งชาติแม่วาง จ.เชียงใหม่ และ อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย
โดย นายวราวุธ ได้กล่าวว่า การพัฒนาโดยการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเป็นหัวใจสำคัญของรัฐบาล และของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้มีการดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้ตอบรับกับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่ได้เข้ามารับตำแหน่ง โดยที่แรกที่ได้ดำเนินการ คือ อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย จ.สระบุรี ที่ทุกวันนี้เรามีทางลาดให้ผู้ที่อยู่บนรถเข็นสามารถลงไปเล่นน้ำในน้ำตกได้แล้ว ผมต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทุกท่าน ที่ร่วมดำเนินการตามนโยบายที่ได้มอบออกไป จนวันนี้ เรามีอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่มีการปรับปรุงห้องน้ำ ที่พัก ทางเดิน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อรองรับคนทุกกลุ่มให้เข้ามาใช้บริการ เป็นหน้าเป็นตาให้กับกระทรวงฯ และเราพร้อมที่จะรับฟังคำแนะนำเพื่อปรับปรุงเพิ่มเติมการให้บริการต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อนำเสนอสมบัติของแผ่นดินที่กระทรวงฯ ปกป้องรักษาอยู่ ทั้งบนบกและใต้ดิน ให้คนทุกคนได้เข้ามาชื่นชม มาเห็นคุณค่า และในอนาคตเชื่อว่าอุทยานแห่งชาติที่มีอยู่กว่า 155 แห่งทั่วประเทศ ทั้งทางบกและทางทะเล จะมีการพัฒนาปรับปรุงเพื่อรองรับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ ได้เพิ่มมากขึ้นต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจสีเขียว และเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ BCG ในทุกพื้นที่เพื่อให้เราทุกคนสามารถเดินหน้าไปด้วยกันได้ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง