วันที่ 12 ตุลาคม 2565 เวลา 8.30 น. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ได้ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ได้นำกำลังพลเจ้าหน้าที่ในสังกัดกว่า 120 นาย กระจายกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี ดังนี้
ท้องที่จังหวัดศรีสะเกษ***
1. ช่วยประกอบอาหาร แพคข้าวกล่องพร้อมน้ำดื่ม ที่ได้รับสนับสนุนจากมูลนิธิเพชรเกษม ครัวลุงอู๊ด และเพจอีจัน เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในท้องที่ ต. หนองแค, ต.หนองอึ่ง อ.ราษีไศล และ ต.บัวน้อย, ต.โนนสังข์ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และพื้นที่ประสบภัยอื่นๆ จำนวน 8,500 กล่อง
2. เฮลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากรฯในการช่วยเหลือ/เคลื่อนย้ายผู้ป่วยทาง ฮ. สะสมจนถึงปัจจุบัน จำนวน 6 ราย และสนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางเรือสะสม 5 ราย รวมทั้งสิ้น 11 ราย***
3. ร่วมต้อนรับนายประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่ง ชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัย ณ จ.อุบลราชธานี และ จ.ศรีสะเกษ โดยรับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำและสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.อุบลราชธานีจากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง จ. ศรีสะเกษ เพื่อรับฟังสรุปสถานการณ์น้ำ และพบปะประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่บ้านหนองบัวไชยวาน ต.โนนสัง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ในการนี้ สบอ. 9 (อุบลราชธานี) ได้ร่วมต้อนรับนายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาอุทกภัยของ สบอ. 9 (อุบลราชธานี) และตรวจเยี่ยมศูนย์ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย พื้นที่บ้านอีปุ้ง ตำบลดูน อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ
4. จนท. ทส. ปฏิบัติงานและพักค้างในชุมชน เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย และประสานงานในชุมชน จำนวน 5 ชุมชน รวมทั้งสิ้น 21 นาย (ถอนกำลังจากบ้านกอกแก้วเนื่องจากมีหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือพอสมควรแล้ว และเพิ่มอัตรากำลังในบางหมู่บ้านให้เพียงพอต่อการดูแลช่วยเหลือ) เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย ติดตามสอบถามกรณีผู้ป่วย ช่วยเหลือประชาชน ในการขนของขึ้นที่สูง แจกจ่ายถุงยังชีพและน้ำดื่ม ประสานแจ้งข้อมูลการเข้าช่วยเหลือของหน่วยงานต่างๆ ลาดตระเวนทางเรือ ช่วยราษฎรอพยพไปยังศูนย์พักพิง ประสานงานการช่วยเหลือกับศูนย์ ทส. ช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางเรือและเฮลิคอปเตอร์ของ ทส. ดังนี้ 1) บ้านขาม ต. บัวน้อย อ. กันทรารมย์ 3 นาย โดยได้สำรวจยานพาหนะและสัตว์เลี้ยงของบ้านขามหมู่ 3 เพื่อเตรียมความพร้อมอพยพ หากระดับเพิ่มขึ้น ได้แก่ รถจักรยานยนต์ จำนวน 210 คัน รถยนต์ จำนวน 60 คัน รถไถนาเดินตาม จำนวน 35 คัน รถแทรกเตอร์คูโบต้า จำนวน 6 คัน
สัตว์เลี้ยงได้แก่ วัว จำนวน 260 ตัว ควาย จำนวน 47 ตัว เจ้าหน้าที่ช่วยขนย้ายเครื่องใช้ประจำบ้าน กระสอบข้าว ของชาวบ้านขึ้นที่สูง จำนวน 3 ครัวเรือน ลำเลียงยานพาหนะจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน
2) บ้านเทิน ต. บัวน้อย อ. กันทรารมย์ 3 นาย เจ้าหน้าที่ทำการช่วยเหลือยกของขึ้นที่สูง
3) บ้านปลาขาว ต.หนองแค อ.ราษีไศล 3 นาย โดยช่วยชาวบ้านขนสิ่งของที่นำใปใช้ในครัวเรือนและยกสิ่งของกองทุนหมู่บ้านขึ้นที่สูง
4) บ้านเหล่าโดน ต.หนองแค อ.ราษีไศล 6 นาย โดยช่วยชาวบ้านอำนวยความสะดวกแจกจ่ายถุงยังชีพ
5) บ้านมะยาง ต.หนองแค อ.ราษีไศล 6 นาย โดยได้ช่วยชาวบ้านเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงมิเตอร์ไฟฟ้าขึ้นที่สูง ช่วยเหลือในการเคลื่อนย้าย และแจกจ่ายอาหารแห้ง และถุงยังชีพกระจายไปในแต่ละครัวเรือน
***ข้อมูลสถานการณ์ในจังหวัดศรีสะเกษ
จังหวัดศรีสะเกษ **
กลุ่มอำเภอที่คาดว่าจะมีมวลน้ำเพิ่มขึ้น ได้แก่ อำเภอราษีไศล อำเภอกันทรารมย์ อำเภอศิลาลาด และอำเภอยางชุมน้อย
โดยอำเภอราศีไศล น้ำหลากท่วม ไม่หยุด หลังจากเขื่อนราษีไศล
รับน้ำเกินสันเขื่อน ถนนจากตัวเมืองศรีสะเกษ
ไปยังอำเภอราษีไศล น้ำท่วมยาว 3 กิโลเมตร รถเล็กข้ามผ่านไปยัง ตัวเมืองไม่ได้
การแก้ไขปัญหาการสัญจร บนถนนดังกล่าว ต้องใช้รถแทรคเตอร์ รถบรรทุกสิบล้อ และรถสไลด์
บรรทุกรถยนต์ /เก๋ง/ และ มอเตอร์ไซค์ รวมถึง ผู้ป่วยและคนทำงาน ข้ามไปกลับ จากเมืองศรีสะเกษมายัง อำเภอราษีไศล
สถานการณ์น้ำท่วมในจ.ศรีสะเกษ พบว่า ในชุมชน น้ำท่วมสูงขึ้นจากเดิม
ประมาณวันละ 2-4 ซม.และกระแสน้ำไหลแรง น้ำที่ท่วมขังเริ่มเน่าเสีย
มีชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม โดยท่วมเป็นเกาะ น้ำล้อมรอบ
เพิ่มเติมในห้วงนี้ อีก 4 หมู่บ้านใน ตำบลหนองแค อำเภอราศีไศล และระดับน้ำยังสูงขึ้นเรื่อยๆ โดย ทส. ได้ประสานงานกับ ปภ. จังหวัด มูลนิธิเพชรเกษมในการเข้าให้การช่วยเหลือ ซึ่งได้รับการสนับสนุน อาหารกล่อง/แห้ง และ เวชภัณฑ์ จาก ครัวลุงอู๊ด-เพจอีจัน มูลนิธิเพชรเกษม หน่วยงาน องค์กรและ มูลนิธิอื่นๆ มาสนับสนุน
ปัญหาในการช่วยเหลือ ทางรถยนต์ ไม่สามารถทำได้
และทางเรือเริ่มมีความยากลำบาก ที่จะเข้าช่วยเหลือ ยิ่งทำได้ยากยิ่งขึ้น
ชุมชน ที่ทางกระทรวงทรัพย์ฯ โดยกองการบิน และ ทส เป็นหนึ่ง
รวมตัวช่วยกัน ช่วยเหลือ ปัญหาที่ พื้นที่ร้องขอ
โดยผ่าน จังหวัด ( ปภ + ทสจ)
จากเรือของมูลนิธิ ได้เข้าไป แล้ว ค่อนข้างลำบาก และไกลมาก (ปัญหาคือ กระแสน้ำแรงขึ้น)
กระทรวงทรัพย์ฯ จึงเห็นความจำเป็น และ ปัญหา เห็นว่า การขนย้าย ของใช้/กิน ต้องได้รับการสนับสนุนจาก กองการบิน ทส
ท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี***
- กองบิน ทส. สบอ.9 ร่วมกับ 1669 เคลื่อนย้ายและลำเลียงผู้ป่วยทางเฮลิคอปเตอร์ของ ทส. จำนวน 1 ราย ได้แก่ นายประณต ปะติ อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 175 หมู่ 6 บ้านน้ำยืน ตำบลโซง อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีภาวะอาการเจ็บป่วย คือ 10 ชั่วโมงก่อนแจ้ง ขณะนอนมีอาการเจ็บหน้าอกร้าวมาที่แขน
Dx . Acute Myocardial Infarction (กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด) มีเหงื่อแตก เหนื่อยเพลีย โดยรับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลน้ำยืน จุดส่งบริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอน้ำยืน จุดส่งปลายทาง คือ กองบิน 21 โดยได้นำส่งโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี เพื่อทำการรักษาต่อไป - กรอกกระสอบทราย ณ ท่าทรายSPคอนกรีต ต.กุดลาด อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อนำไปป้องกันน้ำไม่ให้ไหลปิดกั้นผิวจราจรทางหลวงหมายเลข 231 และนำกระสอบทรายช่วยชาวบ้าน บริเวณชุมชนวัดศรีประดู่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
- บรรจุน้ำดื่มใส่ขวด ณ สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 11 เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย
- ร่วมกันประกอบแพ จากถังน้ำมันที่ได้รับบริจาค จากบริษัท ส.เขมราฐ สำหรับใช้ ขนย้ายสิ่งของ เดินทางสัญจรและช่วยเหลืออื่นๆ แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม
- เตรียมความพร้อมการให้ความช่วยเหลือ/เคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินทางอากาศยาน ศูนย์อำนวยการและประสานงานให้ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอุทกภัย กระทรวงทรัพยากรฯ ยังคงปักหลักช่วยเหลืออยู่บริเวณนี้ต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจาก
– กองการบิน ทส
– หน่วยงานในสังกัด ทส (ทส.หนึ่งเดียว)
– มูลนิธิเพชรเกษม
– โรงครัวลุงอู๊ด เพจอีจัน
– ถุงยังชีพกับน้ำดื่มได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิกองทัพธรรม คณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ นำโดยท่านเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ฯลฯ
– มูลนิธิเพชรเกษมสนับสนุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเฮลิคอปเตอร์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย และส่งเสบียงในจุดที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ จำนวน 200,000 บาท
– เพจอีจัน บริจาคสมทบทุนช่วยเหลือน้ำท่วมรวม 127,230 บาท บริจาคเพิ่มเติมวันนี้ 8,000 บาท รวมเป็น 135,230 บาท
