เมื่อ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 11.30 น. ศูนย์จัดการพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรักที่ 1 (หน่วยพิทักษ์ป่าภูดินน้อย-หน่วยพิทักษ์ป่าโดนเอาว์) ได้ร่วมกับ
คณะเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกันทรลักษ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบ้านโดนเอาว์
นำโดยนางสาวปิ่นปินัทธ์ หาสนาม หัวหน้าศูนย์จัดการพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรักที่ 1ได้ร่วมกัน ตรวจยึดไม้ประดู่ จำนวน 2 ท่อน ซึ่งตรวจสอบพบบริเวณป่าด้านทิศใต้บ้านหนองอุดม ตำบลรุง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยไม่พบผู้กระทำผิด รายละเอียดปรากฏ ดังนี้
- ท่อนที่ 1 มีขนาดความยาว 350 ซ.ม. ความโต 170 ซ.ม.
- ท่อนที่ 2 มีขนาดความยาว 317 ซ.ม.ความโต 154 ซ.ม.
ปริมาตร 1.41 ลบม.
ค่าภาคหลวง 112.80 บาท ค่าเสียหายต่อรัฐ 49,350 บาท เหตุเกิดบริเวณป่าด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้บ้านหนองอุดม ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าเขาพระวิหาร” ท้องที่ตำบลรุง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษม (ลำห้วยสังกด) จุดเกิดเหตุพิกัด 0463283 E 1600295 N ไม้ดังกล่าวไม่มีรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับไว้แต่อย่างใด จึงได้ทำการตรวจยึด แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.โดนเอาว์ เพื่อดำเนินการสอบสวน สืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยแจ้งข้อกล่าวหาดังนี้
1. ผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ฐาน“เข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต“ตามมาตรา 53 ฐาน“เก็บหานำออกไป กระทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ หรือทรัพยากรอื่น หรือกระทำการอื่นใด อันส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศ หรือความหลากหลายทางชีวภาพ ตามมาตรา 55 (5)
- ผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 “ฐาน ทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต”และผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2559 มาตรา 26/4 ฐาน กระทำด้วยประการใด ๆ โดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลายหรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลาย หรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายสูญหายหรือเสียไปนั้น
- ผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 “ฐาน ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต”ตามมาตรา 48 แปรรูปไม้ภายในเขตควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาตและมาตรา 69 “ฐาน มีไม้หวงห้าม อันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต
เนื่องจากบริเวณป่าดังกล่าวเป็นเส้นทางขรุขระมีโขดหินตามเส้นทางและไม้มี ความยาว-ความโต ทำให้ยากแก่การลำเลียงไม้นำออกมาจากจุดเกิดเหตุ เพื่อนำมาเก็บรักษาไว้ จึงได้ขอความเห็นชอบจากพนักงานสอบสวนเบื้องต้น ทำการตัดทอนไม้ประดู่ ดังกล่าว ได้เป็น จำนวน 4 ท่อน ปริมาตรรวม 1.338 ลบม.ค่าภาคหลวง 107.04 บาท ค่าเสียหายต่อรัฐ 46,830 บาท












นายบัญชา ประเสริฐศรี หน.ขสป.พนมดงรัก
รายงาน